ประวัติของ Linux
ลีนุกซ์ถือกำเนิดขึ้นในฟินแลนด์ ปี คศ. 1980 โดยลีนุส โทรวัลด์ส (Linus Trovalds)
นักศึกษาภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) ในมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ
ลีนุส เห็นว่าระบบมินิกซ์ (Minix) ที่เป็นระบบยูนิกซ์บนพีซีในขณะนั้น ซึ่งทำการพัฒนา
โดย ศ.แอนดรูว์ ทาเนนบาวม์ (Andrew S. Tanenbaum) ยังมีความสามารถไม่เพียงพอ
แก่ความต้องการ จึงได้เริ่มต้นทำการพัฒนาระบบยูนิกซ์ของตนเองขึ้นมา โดยจุด
ประสงค์อีกประการ
คือต้องการทำความเข้าใจในวิชาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ด้วย
เมื่อเขาเริ่มพัฒนาลีนุกซ์ไปช่วงหนึ่งแล้ว เขาก็ได้ทำการชักชวนให้นักพัฒนา
โปรแกรมอื่นๆมาช่วยทำการพัฒนาลีนุกซ์ ซึ่งความร่วมมือส่วนใหญ่ก็จะเป็นความ
ร่วมมือผ่านทางอินเทอร์เนต
ลีนุสจะเป็นคนรวบรวมโปรแกรมที่ผู้พัฒนาต่างๆได้ร่วมกันทำการพัฒนาขึ้นมาและ
แจกจ่ายให้ทดลองใช้เพื่อทดสอบหาข้อบกพร่อง ที่น่าสนใจก็คืองานต่างๆเหล่านี้ผู้คนทั้งหมดต่างก็ทำงานโดยไม่คิดค่าตอบแทน และทำงานผ่านอินเทอร์เนตทั้งหมด
ปัจจุบันเวอร์ชันล่าสุดของระบบลีนุกซ์ที่ได้ประกาศออกมาคือเวอร์ชัน 2.0.13
ข้อสังเกตในเรื่องเลขรหัสเวอร์ชันนี้ก็คือ ถ้ารหัสเวอร์ชันหลังทศนิยมตัวแรก
เป็นเลขคู่เช่น 1.0.x,1.2.x เวอร์ชันเหล่านี้จะถือว่าเป็นเวอร์ชันที่เสถียรแล้วและ
มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเลขคี่เช่น 1.1.x, 1.3.x จะถือว่าเป็น
เวอร์ชันทดสอบ ซึ่งในเวอร์ชันเหล่านี้จะมีการเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆลงไป
และยังต้องทำการทดสอบหาข้อผิดพลาดต่างๆอยู่
เหนือการบรรยายต้องมีคำว่าคลายเคลียด
คนสร้าง Linux
นัส ทอร์วัลด์ (Linus Torvalds) ผู้สร้างระบบปฏิบัติการ Linux เตรียมลาออกจากบริษัททรานส์เมตะ (Transmeta Corp.) ซึ่งเป็นงานประจำในปัจจุบัน เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่ม “Open Source Development Lab” (OSDL) หวังกระตุ้นตลาดให้เกิดการยอมรับ Linux เร็วขึ้น
ในฐานะสมาชิกกลุ่ม OSDL (OSDL Fellow) ทอร์วัลด์จะรับหน้าที่เป็นผู้นำในการพัฒนา Linux ซึ่งเขาเป็นผู้สร้างขึ้นกับมือเมื่อปี 1991 ตอนครั้งสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ (University of Helsinki) และปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก ตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)
“ทอร์วัลด์จะเป็นทั้งกัปตัน, โคช และผู้จัดการของทีมพัฒนา Linux” ตามรายงานจากนิวยอร์กไทม์ส (NY Times) ซึ่งอ้างถึงคำกล่าวของ สจวร์ต โคเฮน (Stuart Cohen) ประธานคณะผู้บริหาร OSDL
บริษัทไอบีเอ็ม (International Business Machines Corp.; IBM) และบริษัทฮิวเลตต์แพคการ์ด หรือเอชพี (Hewlett-Packard Co.; HP) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อันดับ 1 และ 2 ของโลก ได้ให้การสนับสนุน Linux มาหลายปีแล้ว ขณะที่บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ (Sun Microsystems Inc.) แม้นโยบายเกี่ยวกับ Linux จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ยังคงยืนยันให้การสนับสนุน
“รู้สึกใจหายนิดหน่อยที่ต้องจากงานที่ทำมาตลอด 12 ปีไป แต่มันก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ผมสามารถทุ่มเวลาให้กับ Linux ได้อย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่เคอร์เนล 2.6.x (Kernel) ที่จะคลอดออกมาในเร็วๆนี้” ทอร์วัลด์กล่าวในแถลงการณ์
เคอร์เนล (Linux Kernel) คือ ชิ้นส่วนหรือคอมโพเนนต์หลักในระบบปฏิบัติการ Linux คือศูนย์กลางที่คอยประสานการทำงานระหว่างคอมโพเนนต์ต่างๆในระบบปฏิบัติการ หรือเป็นแกนกลางของระบบปฏิบัติการ Linux ดิสทริบิวชั่นใดๆ (Distribution; มีความหมายเท่ากับเวอร์ชั่น)
เมื่อปลายปีที่แล้ว ทอร์วัลด์ตั้งใจจะคลอดเคอร์เนล 2.6 ออกมาในเดือนมิถุนายน 2003 ขณะที่บริษัทไอบีเอ็มหวังว่าจะได้เห็นเคอร์เนล 2.6 ในผลิตภัณฑ์ของพวกเขาตอนครึ่งปีหลัง แต่เมื่อเร็วๆนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า ไอบีเอ็มได้แจ้งให้ลูกค้าของพวกเขาทราบว่า เคอร์เนล 2.6 จะออกสู่ตลาดตอนต้นปี 2004 ตามรายงานจากสำนักข่าวซีเน็ต (Cnet)
Linux ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ไลเซนส์ “GNU General Public License” ซึ่งหมายความว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงและเผยแพร่ซอร์สโค้ด (โค้ดที่ใช้ในการพัฒนา) ของ Linux ได้โดยเสรี
OSDL คือศูนย์กลางการพัฒนา Linux ของโลก จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 และมีศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่พอร์ตแลนด์, โอรีกอน และโยโกฮามา ตามข้อมูลจาก OSDL
สำหรับผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่กลุ่ม OSDL ได้แก่ บริษัทคอมพิวเตอร์แอสโซซิเอทส์อินเตอร์เนชั่นแนล หรือซีเอ (Computer Associates International Inc.; CA), บริษัทฟูจิตสึ (Fujitsu), บริษัทฮิตาชิ (Hitachi), บริษัทเอชพี (HP), บริษัทไอบีเอ็ม (IBM), บริษัทอินเทล (Intel Corp.), บริษัทเอ็นอีซี (NEC) และอื่นๆ
เป้าหมายหลักของกลุ่ม OSDL คือ การเตรียมความพร้อมให้ Linux สำหรับการใช้งานในภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัทต่างๆหรือเครือข่ายสื่อสาร
“โคเฮนคาดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง OSDL กับทอร์วัลด์จะไปได้สวย ... การตัดสินใจของทอร์วัลด์ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในภารกิจและบทบาทของเรา” ตามรายงานจากคอมพิวเตอร์เวิลด์ (Computer World)
จอร์จ ไวซ์ (George Weiss) “ตลาดคอมพิวติ้งยังไม่มั่นใจว่า Linux จะไปได้ไกลและเร็วแค่ไหนในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรขนาดใหญ่”
ผลการศึกษาของบริษัทการ์ตเนอร์ดาต้าเควสต์ (Gartner Dataquest) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาด ระบุว่า รายได้จากการจำหน่าย “Linux Server” ในปี 2002 โต 62% ขณะที่ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกร่วง 8% และคาดว่าจะเก็บมาร์เก็ตแชร์ได้ถึง 15% ในตลาดเซิร์ฟเวอร์โลกปี 2007
อัล กิลเลน (Al Gillen) นักวิเคราะห์จากไอดีซี (IDC) กล่าวว่า การตัดสินใจของทอร์วัลด์เป็นผลดีกับทั้งกลุ่ม OSDL และ Linux “เป็นการสร้างเครดิตให้ OSDL ... ผมคิดว่าทอร์วัลด์คงต้องการทุ่มให้กับ Linux อย่างเต็มที่ และมุ่งที่ Linux เพียงอย่างเดียว”
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุดสำหรับ Linux เพราะกำลังมาแรงและกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากภาคธุรกิจ และด้วยความดัง เลยทำให้ Linux ต้องเข้าไปพัวพันกับคดีความทางกฎหมายจนได้
เมื่อเดือนมีนาคม 2003 บริษัทเอสซีโอกรุ๊ป (SCO Group) ฟ้องบริษัทไอบีเอ็มเรียกค่าเสียหายเป็นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท) โดยกล่าวหาว่าไอบีเอ็มทำผิดสัญญา นำความลับใน Unix ไปใช้ใน Linux และข่าวล่าสุดว่า บริษัทเอสซีโอได้เรียกค่าเสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท) แล้ว ตามรายงานจากซีเน็ต
ทอร์วัลด์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการกระทำของเอสซีโอว่า “มันชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนของ Linux นั่นคือการขาดผู้จัดการโครงการที่มีความสามารถในการระบุตัวสินทรัพย์ทางปัญญาก่อนนำเข้ามาใช้ในการพัฒนาโอเพ่นซอร์ส”
“ผมค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องสินทรัพย์ทางปัญญา โดยส่วนตัวแล้วผมมีทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ในครอบครองเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นคือการเจ้าของลิขสิทธิ์เคอร์เนล นั่นทำให้ผมยิ่งต้องระมัดระวังในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ผมเชื่อว่าโดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเห็นความสำคัญของลิขสิทธิ์มากกว่าเอสซีโอ และผมซีเรียส” ตามรายงานจากซีเน็ตซึ่งอ้างถึงเนื้อความบางส่วนในอีเมลจากทอร์วัลด์
ที่อยู่ลิ้งค์
http://www.google.co.th/search?hl=th&q=%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%20Linux&um=1&ie=UTF-8&sa=N&tab=iw
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น